ไม่รู้ไม่ได้ - สุดยอดวิตามินและสารสกัดที่ช่วยเรื่องชะลอวัย!!! (ตอนที่ 1)
top of page

ไม่รู้ไม่ได้ - สุดยอดวิตามินและสารสกัดที่ช่วยเรื่องชะลอวัย!!! (ตอนที่ 1)

อัปเดตเมื่อ 22 ม.ค.


สุดยอดวิตามินและสารสกัดที่ช่วยเรื่องชะลอวัย!!!
สุดยอดวิตามินและสารสกัดที่ช่วยเรื่องชะลอวัย!!!

วิตามินและสารสกัดที่ช่วยเรื่องชะลอวัยที่โดดเด่น 14 ชนิด


แม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสื่อม ความแก่ชราของร่างกายได้ แต่พวกเราก็สามารถชะลอกระบวนการแก่ชรานี้ได้ และคนทั่วไปจำนวนมาก ก็ยังต้องการให้ตนเองดูอ่อนวัยนานที่สุดเท่าที่จะนานได้


ในวันที่เรายังอ่อนวัย การรับประทานอาหารที่ดี จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน แต่ในวันที่เราแก่ชราลง ร่างกายมีปัญหาเรื่องของการดูดซึม ความอยากอาหารและโรคภัยไข้เจ็บ ล้วนมีผลทำให้ร่างกายเราขาดสารอาหาร ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคที่มากับอายุ


แต่เราสามารถลดความความเสี่ยงเหล่านี้ได้ ด้วยการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการรับประทานที่ดี รวมทั้งอาหารเสริมที่ถูกวิธี จะช่วยให้ลดอาการพวกนี้ได้


การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหาร การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกิน เป็นการช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นในผู้สูงวัยและช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกายได้ดี


นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามศึกษาค้นคว้าวิตามิน และสารสกัดจำนวนมาก เพื่อดูว่า มีสารอะไรบ้างที่สามารถชะลอกระบวนการเสื่อมของร่างกายได้ และช่วยป้องกันโรคที่มากับอายุ


มาดูกันครับว่า มีวิตามินและสารสกัดอะไรบ้างที่ช่วยชะลอวัยได้? ...


1. เคอร์คูมิน (Curcumin)


เป็นสารสกัดที่ได้จากขมิ้น มีหลายงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า สาร curcumin มีสรรพคุณในการปกป้องเซลล์ได้ดีและยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก


เมื่อเซลล์หยุดแบ่งตัว เซลล์ก็จะเริ่มเสื่อมสลายไปเรื่อยๆ ความเสื่อมสลายของเซลล์จะสะสมมากขึ้นเมื่อคนเราอายุสูงวัยขึ้น ซึ่งเชื่อกันว่า จะไปเร่งให้คนเราแก่ชราเร็วขึ้นและโรคต่างๆ ก็จะเกิดตามมา


อ้างอิง:


งานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าสารเคอคูมิน จะไปกระตุ้นโปรตีนที่ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์และช่วยให้เซลล์มีอายุที่ยืดยาวออกไป (Sirtuin signaling in cellular senescence and aging และ The Role of Curcumin in the Modulation of Ageing )


นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในสัตว์ที่แสดงให้เห็นว่าสารเคอคูมินช่วยต่อต้านกระบวนการทำลายเซลล์และยืดอายุของเซลล์ให้นานขึ้น ช่วยยืดเวลาการมาของโรคที่มาพร้อมกับความชรา และอาการที่สัมพันธ์กับอายุ ( The Role of Curcumin in the Modulation of Ageing , Effects of Curcumin on Aging: Molecular Mechanisms and Experimental Evidence , Curcumin supplementation increases survival and lifespan in Drosophila under heat stress conditions )


สรุป


เคอคูมินเป็นสารที่พบได้ในขมิ้นชัน มีสรรพคุณชะลอวัยได้ โดยกระตุ้นโปรตีนที่ช่วยป้องกันขบวนการทำลายเซลล์ในร่างกาย



2. EGCG


Epigallocatechin gallate (EGCG) เป็นสารโพลีฟีนอล ที่พบได้มากในชาเขียว มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน รวมทั้ง การลดความเสี่ยงเรื่องมะเร็ง และโรคหัวใจ (R, R, R).

EGCG ยังช่วยเรื่องชะลอวัยได้ดี และป้องกันโรคที่มากับความแก่ชรา รวมถึงการฟื้นฟูการทำงานของไมโตคอนเดรีย และมีงานวิจัยที่พูดถึง


  • กระตุ้นให้เกิด autophagy (เป็นการกำจัดของเสียออกจากเซลล์ - ดีท๊อกซ์เซลล์) - (R).

  • ช่วยป้องกันการเสื่อมของผิวหนัง - ลดการสร้างเม็ดสีที่เกิดจากรังสี UV (R, R, R).

  • งานวิจัยที่พูดถึงการดื่มชาเขียวทุกวัน จะกระตุ้นเซลล์ประสาทและลดภาวะเครียด ทำให้สมองฟื้นตัวจากความชราได้ (R).


การดื่มชาเขียว ทำให้ได้รับสาร EGCG ได้มากหรืออาจจะรับประทานอาหารเสริมก็ได้ ซึ่งพอสรุปสรรพคุณได้ดังนี้ - ประโยชน์ 5 อย่างของ EGCG


สรุป


เป็นสารกลุ่มโพลีฟีนอล ที่พบมากในใบชาเขียว ช่วยฟื้นฟูการทำงานของไมโตคอนเตรีย ทำให้สุขภาพที่เสื่อมจากวัยดีขึ้น



3. Collagen


เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายเราจะผลิตคอลลาเจนน้อยลง ซึ่งจะเร่งให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ ทำให้เกิดริ้วรอย - เป็นสัญญานของความแก่ชรา


มีงานวิจัยที่พูดถึง การรับประทานคอลลาเจนทุกวัน จะช่วยลดสัญญานความแก่ชราได้ รวมทั้งริ้วรอย รอยตีนกา และอาการผิวแห้งกร้าน (R)


มีการทำวิจัย ในผู้หญิง 72 คน ใช้เวลา 12 สัปดาห์ พบว่า การรับประทานคอลลาเจน 2.5 กรัม ร่วมกับสารตัวอื่น รวมทั้งไบโอติน (Biotin) ทุกวัน — จะทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้าน และมีความยืดหยุ่นดีขึ้นอย่างชัดเจน (R).


สรุป

คอลลาเจน เป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมสูง และมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า คอลลาเจน ช่วยป้องกันผิวจากการเสื่อมของวัย ด้วยการทำให้โครงสร้างผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง





4. CoQ10


เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายผลิตได้เอง มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างพลังงานและปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ (R)


มีงานวิจัยที่บอกว่า ระดับของ CoQ10 จะลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น การรับประทาน CoQ10 จะช่วยให้สุขภาพโดยรวมในผู้สูงวัยดีขึ้น มีการศึกษาในผู้สูงอายุ 443 คน นาน 4 ปี ด้วยการให้รับประทาน CoQ10 ร่วมกับ เซเลเนี่ยม (Selenium) จะช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้น ลดการเจ็บป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาล และยังช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกายและสภาพจิตใจในผู้สูงอายุได้ (R)


นอกจากนี้ยังพบว่า CoQ10 จะช่วยให้หัวใจทำงานดีขึ้น ด้วยการลดการแข็งตัวของเส้นเลือดทั่วร่างกาย, ช่วยลดความดันเลือด และยังช่วยป้องกันการสะสมของคอเลสเตอรอลที่เส้นเลือดได้ (R).


สรุป


CoQ10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายเราผลิตขึ้นได้เองตามธรรมชาติ การรับประทานทุกวันจะช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกายและช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยดีขึ้น



5. Nicotinamide mononucleotide (NMN)


NMN เป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายนำไปผลิต NAD+ ได้ และ NAD+ พบได้ในร่างกายและมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างพลังงานในร่างกาย การเผาผลาญพลังงาน รวมถึง การซ่อมแซม DNA, ซ่อมเซลล์เซลล์ และทำให้เทโลเมียร์ยาวขึ้น (R, R)


เมื่ออายุมากขึ้น ระดับ NAD+ จะลดน้อยลง ซึ่งจะไปเร่งการเสื่อมของร่างกายทั้งหมด และทำให้เกิดโรคหลายชนิดที่มากับความชรา เช่น โรคอัลไซเมอร์ (R). เป็นต้น


สรุป


การรับประทาน NMN จะช่วยเพิ่มปริมาณ NAD+ ในร่างกายให้สูงขึ้น และช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการเสื่อมและโรคที่มากับความชราได้ดี



6. โครซิน (Crocin)

โครซินเป็นสารกลุ่มแคโรตินอยด์ที่พบได้มากใน หญ้าฝรั่น ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่นิยมใส่กันในอาหารอินเดียและอาหารสเปน


จากการศึกษาในคนและสัตว์ พบว่า สารโครซินมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก รวมทั้งช่วยต่อต้านมะเร็ง ลดการอักเสบ ลดภาวะเครียด ลดอาหารซึมเศร้า และลดน้ำตาลในเลือดได้ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันการรับรู้ที่เสื่อมลงตามอายุได้ (R, R)


มีการทำวิจัยในหลอดทดลองและในกระต่าย พบว่า สารโครซินช่วยปกป้องเส้นประสาทไม่ให้ถูกทำลายจากความชรา ด้วยการยับยั้งการผลิต AGEs และอนุมูลอิสระ ซึ่งจะก่อให้เกิดกระบวนการแก่ชราได้ (R, R).


นอกจากนี้ โครซิน ยังช่วยป้องกันเซลล์ผิวจากการเสื่อมตามวัย โดยลดการอักเสบ และป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากรังสี UV (R, R).


สรุป


สารโครซิน พบได้มากในหญ้าฝรั่น ช่วยต่อต้านการทำลายเซลล์และลดการอักเสบ และช่วยให้ชะลอวัยได้ดี



7. Vitamin C


วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงมาก ช่วยป้องกันเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระได้ มีบทบาทต่อภูมิต้านทานของร่างกาย ควบคุมการอักเสบ และอีกหลายกระบวนการที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุ (R).


นี่เป็นเหตุผลที่เราควรจะรับประทานวิตามินซี ทุกวัน เพื่อช่วยเรื่องสุขภาพโดยรวมและป้องการภาวะเสื่อมที่เกิดจากความแก่ชราได้


มีการศึกษาในผู้สูงอายุ 80 คน อายุเฉลี่ยที่ 60 ปี และได้รับวิตามินซีในปริมาณสูง พบว่าช่วยให้ ความจำ สมาธิ การตัดสินใจ และการรับรู้ ดึขึ้นมาก (R).


วิตามินซี ยังมีความสำคัญต่อสุขภาพของผิวหนัง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และป้องกันการเกิดริ้วรอย และการแก่ก่อนวัยที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดได้ (R).


นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่ชี้ว่า วิตามินซีช่วยเพิ่มการทำงานของภูมิต้านทานในผู้สูงอายุดีขึ้น (R).


สรุป


ในผู้สูงอายุมักมีระดับของวิตามินซีต่ำกว่าปกติ ซึ่งจะมีผลเสียต่อสุขภาพและมีผลให้แก่ก่อนวัยได้





ผู้สนใจ สอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ ... 
⫸ Tel. 082-777-4461, 092-247-7006 
⫸ Line ID: baramilab หรือ sale.04 



bottom of page