เข้าใจเรื่องสีผิวและการสังเคราะห์เม็ดสี เพื่อพัฒนาครีมหน้าขาวใส — ให้มีจุดขายที่โดดเด่น (ตอนที่ 1)
top of page

เข้าใจเรื่องสีผิวและการสังเคราะห์เม็ดสี เพื่อพัฒนาครีมหน้าขาวใส — ให้มีจุดขายที่โดดเด่น (ตอนที่ 1)



นี่เป็นพื้นฐานสำคัญที่คุณควรต้องรู้ ผมขอย้ำว่าคุณจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจมันเป็นอย่างดี เพราะมันจะใช้ประโยชน์ในการอธิบายทุกอย่างที่เกี่ยวกับผิวหนัง  


ครับ ขอเน้นย้ำว่า คุณควรเรียนรู้ว่ากลไกในการสังเคระห์เม็ดสีเมลานินเป็นอย่างไร?  ในแต่ละขั้นตอนที่สำคัญมีอะไรบ้าง?   เมื่อคุณรู้และเข้าใจทั้งหมดแล้ว คุณก็รู้ว่าแต่ละขั้นตอนในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินนั้น คุณจะหาสารออกฤทธิ์ตัวไหนมายับยั้งที่จุดไหน เพื่อเป็นจุดขายของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของคุณ   คุณจะรู้ว่าคุณจะสร้างจุดขายของผลิตภัณฑ์ของคุณให้แตกต่างจากของคู่แข่งของคุณได้อย่างไร?

       

ในบทนี้ผมพยายามจะเขียนให้อ่านและเข้าใจได้ง่ายที่สุด ไม่ได้เน้นลงลึกและใช้ศัพท์ทางการแพทย์ที่ซับซ้อน รวมทั้งผมพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ภาพที่ดูเข้าใจยาก แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีศัพท์บางคำที่คุณต้องรู้จักและทำความคุ้นเคยกับมัน เพราะตราบใดที่คุณยังอยู่ในธุรกิจนี้ คุณก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงมันได้

       

สุดท้ายนี้ ผมได้เน้นประเด็นสำคัญ เพื่อเป็นจุดหลักๆ ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้

       

มาเริ่มกันเลยครับ ...

       

ก่อนอื่น ผมอยากให้คุณได้อ่านบทความเรื่อง "อยากจะปิดการขายเครื่องสำอางเก่ง คุณควรรู้... กายวิภาคของผิวหนังและหน้าที่" ซ้ำเพื่อทบทวนความเข้าใจอีกครั้ง และคุณจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนขี้นได้ไม่ยาก

       

ในกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน จะเกี่ยวข้องกับ

  1. เซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) เป็นเซลล์ชนิดหนึ่งในผิวหนังชั้นอีพิเดอมีส จะแทรกตัวอยู่ในชั้นของเบเซิลเซลล์ (Basal cell) มีหน้าที่สร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เกิดเป็นสีผิวต่างๆ ขึ้นมา โดยเม็ดสีเมลานินที่ผลิตขึ้นมา จะถูกเก็บไว้ในเมลาโนโซม

  2. เมลาโนโซม (Melanosome) เปรียบได้กับอวัยวะชนิดหนึ่งที่อยู่ในเซลล์เมลาโนไซต์ ทำหน้าที่ในการผลิตและเก็บเม็ดสีเมลานิน ซึ่งกระบวนการในการผลิตและเก็บเม็ดสีเมลานิน ทั้งหมดจะเกิดขึ้นที่นี่ จากนั้นจะถูกส่งไปตามท่อเด็นไดร์ท ดังรูป

  3. ท่อเด็นไดร์ท (Dendrite) ซึ่งเป็นท่อเล็กๆ (เป็นส่วนหนึ่งของเซลล์เมลาโนไซต์) ที่ยื่นยาวออกไปเป็นแขนงขึ้นไปสู่บนผิวชั้นบนและเข้าไปอยู่ในเซลล์คีราติโนไซต์ ดังรูปล่างสุด ท่อนี้จะส่งถุงเมลาโนโซม (ภายในมีเม็ดสีเมลานินบรรจุอยู่) ไปตามท่อเด็นไดร์ท จากนั้นก็จะส่งเม็ดสีเมลานินเข้าสู่เซลล์คีราติโนไซต์ ถ้ามีการขัดขวางไม่ให้มีการส่งเมลานินไปตามท่อเด็นไดร์ท ก็จะส่งผลให้ไม่มีการแสดงผลของเมลานินออกมา ถึงแม้ว่าจะมีเม็ดสีเมลานินอยู่จำนวนมากแล้วก็ตาม

  4. เซลล์คีราติโนไซต์ (Keratinocyte) เป็นเซลล์ชั้นบนสุดของผิวหนัง เมื่อเกิดใหม่จะอยู่ด้านล่างใกล้กับเบเซิลเซลล์ ซึ่งเซลล์จะมีลักษณะกลม แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็จะถูกเซลล์คีราติโนไซต์ที่เกิดใหม่ดันให้ขึ้นสู่ชั้นผิวและจะถูกดันให้แบน ดังรูป จากนั้นเซลล์คีราติโนไซต์ก็จะตาย (จากรูปจะเห็นว่าไม่มีนิวเคลียสอยู่ภายในเซลล์) เซลล์คีราติโนไซต์ที่ตายแล้ว (ไม่มีนิวเคลียสอยู่ภายในเซลล์) ก็จะรวมตัวกันเป็นชั้นขี้ไคล (Stratum corneum)





NOTE: ปกติที่ชั้นผิว ในรอบเซลล์หนึ่ง (Cell Cycle) จะมีระยะเวลา 28 วัน ถ้ารอบเซลล์ที่ยาวนานกว่านี้ก็จะเป็นผลให้ผิวหมองคล้ำได้ เนื่องจากมีการพอกตัวหนาของชั้นขี้ไคล (Keratin)  

ด้วยเหตุนี้ จึงนิยมใช้กรด AHA มาช่วยผลัดเซลล์ผิว โดยกรด AHA จะไปทำให้แรงยึดเหนี่ยวระหว่างชั้นของเคอราตินอ่อนแรงลง ทำให้หลุดลอกออกได้ง่าย จึงเปิดทางให้เซลล์คีราติโนไซต์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ ผิวจึงดูกระจ่างใสได้







bottom of page