top of page

ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) คืออะไร? ... มีประโยชน์อย่างไร?

  • รูปภาพนักเขียน: dr.bunlue
    dr.bunlue
  • 7 ธ.ค. 2566
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 22 ม.ค. 2567


ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) คืออะไร? ... มีประโยชน์อย่างไร?
ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) คืออะไร? ... มีประโยชน์อย่างไร?

Sulforaphane เป็นสารประกอบจากธรรมชาติ ที่พบในผักตระกูลกะหล่ำหลายชนิด เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และคะน้า พบว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง บทความนี้เป็นเพียงการแนะนำให้รู้จักสารซัลโฟราเฟน เบื้องต้น สำหรับงานวิจัยและบทความเชิงลึกจะนำเสนอต่อไป



ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) คืออะไร?


Sulforaphane เป็นสารประกอบที่อุดมด้วยกํามะถันที่พบในผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี บกชอย และกะหล่ำปลี และมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก


ในพืชพวกนี้ Sulforaphane จะอยู่ในรูป inactive form คือ กลูโคราฟานิน (glucoraphanin) ซึ่งเป็นสารตระกูลกลูโคซิโนเลต (glucosinolate) ที่พบในพืช


Sulforaphane จะถูกกระตุ้นเมื่อ glucoraphanin สัมผัสกับเอ็นไซม์ myrosinase ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่มีบทบาทในการตอบสนองการป้องกันของพืช


นี่เป็นเคล็ดเล็กน้อยในการนำผักตระกูลกะหล่ำมาปรุงเป็นอาหาร โดยยังคงรักษาสารซัลโฟราเฟนได้สูงสุด


  • เอ็นไซม์ Myrosinase จะถูกปล่อยออกมาและถูกกระตุ้นเมื่อพืชได้รับความเสียหายเท่านั้น ดังนั้นผักตระกูลกะหล่ำจะต้องถูกตัดสับหรือเคี้ยว เพื่อปล่อยไมโรซิเนสและกระตุ้นให้ผลิตซัลโฟราเฟนออกมา (*)

  • ผักดิบจะมีสารซัลโฟราเฟนอยู่ในระดับที่สูงมาก มีการศึกษาที่พบว่า บรอกโคลีดิบ มีซัลโฟราเฟนมากกว่าบรอกโคลีปรุงสุกถึงสิบเท่า (*)

  • การนึ่งผักนาน 1 -3 นาที น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มระดับซัลโฟราเฟน เมื่อปรุงอาหาร (*)

  • ทางที่ดี แนะนำควรปรุงผักที่อุณหภูมิต่ำกว่า 284°F (140°C) เนื่องจากอุณหภูมิที่เกินนี้ จะส่งผลให้สูญเสียสารกลุ่มกลูโคซิโนเลต เช่น กลูโคราฟานิน (*)


ด้วยเหตุนี้ จึงควรหลีกเลี่ยงการต้มหรือไมโครเวฟกับผักตระกูลกะหล่ำ มาเป็นรับประทานแบบดิบหรือนึ่งเบาๆ เพื่อเพิ่มปริมาณสารซัลโฟราเฟน





ประโยชน์ของ Sulforaphane ต่อสุขภาพ


การศึกษาในสัตว์หลอดทดลองและมนุษย์ระบุว่า sulforaphane มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ


ฤทธิ์ต้านมะเร็ง (Anticancer Effects)

มะเร็งเป็นโรคที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ จากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ Sulforaphane ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีคุณสมบัติต้านมะเร็งในหลอดทดลอง และจากการศึกษาในสัตว์หลายชนิด พบว่า Sulforaphane ช่วยลดทั้งขนาดและจํานวนของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ได้ (*) (*) (*) ซัลโฟราเฟนอาจจะป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยการปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระและเอ็นไซม์ล้างพิษ (Detoxification enzyme) ที่ป้องกันสารก่อมะเร็ง (*) (*) (*) ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่ชัดเจนว่า ในทางคลินิก สามารถใช้ซัลโฟราเฟนในการลดความเสี่ยงมะเร็งและลดการเติบโตของมะเร็งในมนุษย์ได้หรือไม่ (*) จากการศึกษาด้านประชากร ที่ได้เชื่อมโยงกับการกินอาหารที่มีผักตระกูลกะหล่ำในปริมาณที่สูง เช่น บรอกโคลีกับความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ (*) นักวิจัยเชื่อว่า สารประกอบในผักเหล่านี้ — รวมถึงซัลโฟราเฟน — มีบทบาทต่อคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ (*)


ฤทธิ์ต้านเบาหวาน (Anti-diabetic effects)

โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 เป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก คนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่สามารถย้ายน้ำตาลจากเลือดไปเก็บที่เซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทําให้ยากต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จากการทำวิจัยนาน 12 สัปดาห์ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 จํานวน 97 คน เพื่อตรวจสอบว่า การบริโภคสารสกัดจากต้นกล้าบรอกโคลี ซึ่งเทียบเท่ากับซัลโฟราเฟน 150 µmol (ไมโครโมล) จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดทุกวันอย่างไร (*) การศึกษานี้พบว่า ซัลโฟราเฟนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 6.5% และปรับปรุงฮีโมโกลบิน A1c ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางชีวภาพ (Biomarker) ของการควบคุมน้ำตาลในเลือดในระยะยาว ผลกระทบเหล่านี้มีผลมากเป็นพิเศษในผู้เข้าร่วมที่เป็นโรคอ้วนที่ควบคุมโรคเบาหวานได้ไม่ดี (*) จากการศึกษาในสัตว์ถึงผลประโยชน์ของ Sulforaphane ต่อระดับน้ำตาลในเลือด ก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกันกับในคน (*) (*)


ช่วยการทำงานของหัวใจ

จากการทำวิจัยทั้งในหลอดทดลองและการศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นว่า ซัลโฟราเฟนอาจช่วยเพิ่มสุขภาพหัวใจได้หลายวิธี (*) ตัวอย่างเช่น sulforaphane อาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจโดยการลดการอักเสบ การอักเสบอาจทําให้หลอดเลือดแดงตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุสําคัญของโรคหัวใจ (*) (*) การวิจัยในหนูยังบ่งชี้ว่า sulforaphane อาจลดความดันโลหิตสูง ซึ่งจะป้องกันโรคหัวใจได้ (*)


ประโยชน์อย่างอื่น เช่น

จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า sulforaphane อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ เช่นกัน:

  • ช่วยรักษาอาการบางอย่างของออทิสติก จากการศึกษาในชายหนุ่ม 29 คนที่เป็นออทิสติก พบว่า การให้สารซัลโฟราเฟน 50-150 µmol ทุกวันเป็นเวลา 18 สัปดาห์ ทําให้อาการออทิสติกดีขึ้น เช่น ปฏิสัมพันธ์กับสังคม และการสื่อสารด้วยวาจา (*)

  • ป้องกันความเสียหายจากแสงแดด การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า ซัลโฟราเฟนอาจช่วยป้องกันความเสียหายของผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เกิดจากแสงแดด (*) (*) (*)

  • ช่วยป้องกันความเสียหายของสมอง จากการศึกษาในสัตว์พบว่า sulforaphane อาจมีศักยภาพในการเพิ่มการฟื้นตัวและลดความเสื่อมถอยทางจิตใจหลังจากได้รับบาดเจ็บที่สมอง (*) (*) (*)

  • ช่วยให้อาการท้องผูกดีขึ้น จากการศึกษานาน 4 สัปดาห์ในผู้ใหญ่ 48 คน การรับประทานต้นกล้าของบรอกโคลีที่อุดมด้วยซัลโฟราเฟน 20 กรัมต่อวัน จะช่วยให้อาการท้องผูกดีขึ้น (*)

ที่กล่าวมานี้เป็นการศึกษาในเซลล์ของมนุษย์และจากสัตว์เป็นส่วนใหญ่ ต้องรอการศึกษาผลที่มีต่อคนจริง เพื่อยืนยันถึงคุณประโยชน์จริงๆ ของ Sulforaphane





อาการข้างเคียงและความปลอดภัย


การบริโภคซัลโฟราเฟนในปริมาณที่พบในผักตระกูลกะหล่ำถือว่า ปลอดภัยโดยมีผลข้างเคียงน้อย (*)


ปัจจุบัน เราจะพบว่ามี อาหารเสริมเหล่านี้ขายทางออนไลน์อยู่มาก ซึ่งมักจะทําจากบรอกโคลีหรือสารสกัดจากต้นกล้าบรอกโคลี และโดยทั่วไปจะมีความเข้มข้น มีสารซัลโฟราเฟนมากกว่าที่พบตามธรรมชาติในอาหาร.


Glucoraphanin — สารตั้งต้นของ sulforaphane — ถ้าใช้ใส่ในอาหารเสริมยังต้องผสมกับ myrosinase เพื่อพร้อมกระตุ้นใช้งานได้ตลอด


ปัจจุบันยังไม่มีคําแนะนําถึงขนาดในการบริโภคต่อวันสำหรับ sulforaphane แต่จากการสำรวจทางออนไลน์ แบรนด์อาหารเสริมที่มีอยู่ ส่วนใหญ่แนะนําให้ใช้ประมาณ 400 ไมโครกรัมต่อวัน — หรือท่ากับ 1-2 แคปซูล.


ผลข้างเคียงไม่รุนแรง ที่พอพบได้ เช่น ท้องอืด ท้องผูก และท้องเสีย (*)





#drbunlue #NMP #NMN #NAD #ChapaGroupAndMadePhuwiang #ย้อนวัยไปกับ_drbunlue #antiaging #ชะลอวัย #สุขภาพดี #tiktokสุขภาพ #ลืมป่วย #healthy #healthycare #healthyfood #ดูแลสุขภาพ #Polyphenol #Sulforaphane #อาหารเสริมชะลอวัย




Comments


bottom of page