จุดเริ่มต้นของคุณภาพ
-
สู่มาตรฐานสากล
-
สร้างสรรค์นวัตกรรม
-
รับผิดชอบต่อสังคม
บารามี แลบบอราทอรีส์
BARAMI LABORATORIES
จุดเริ่มต้นของคุณภาพ!
จากเหตุการณ์วิกฤติในวงการเครื่องสำอางและอาหารเสริม ที่มีต้นเหตุมาจาก เมจิกสกิน และได้สร้างผลกระทบอย่างมากมายให้กับผู้ประกอบการในทุกระดับ และได้ลดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
แต่วิกฤตการณ์เช่นนี้กลับไม่ได้ส่งผลด้านลบต่อ บารามี แลบบอราทอรีส์
ทำไมผมถึงได้ออกตัวเช่นนี้...
ก่อนที่จะเล่าเรื่องนี้ ผมขอเล่าย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่ เรายังเป็นคลินิกความงามเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2545 จากนั้นก็ได้ผลิตเวชสำอางขึ้นมาใช้เองและขายส่งให้กับคลินิกความงามทั่วประเทศ
เวชสำอางที่ใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นสูตรยาที่คลินิกส่วนใหญ่นิยมใช้กันแพร่หลาย ในขณะนั้นเรามีสินค้าที่ขายดี คือ One Day Special Whitening cream หรือ Overnight Sleeping Mask cream ทางทีมงานจึงได้กำหนดให้ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อผิว
ราวปี 2552 ปรากฏว่า มีคนสนใจขอเข้ามาทำแบรนด์เครื่องสำอางจำนวนมาก ทางทีมงานพิจารณาแล้วว่า ไม่สมควรและไม่สนับสนุน เพราะเกรงจะมีปัญหาตามมาภายหลัง พร้อมกันนั้นทางบริษัทฯ ก็ได้ซุ่มพัฒนาสูตรมาส์กหน้าที่ให้ผลใกล้เคียงกับสูตรยา โดยที่ไม่ได้แพร่งพรายให้ใครทราบแม้แต่ทีม RD ในขณะนั้น
การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มีปัญหามากมาย จากความไม่มีประสิทธิภาพ ทางทีมงานจึงได้ตัดสินใจหันมาเน้นเรื่องการพัฒนาองค์กร และการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งชะลอการขยายตัว ระหว่างนี้เอง ลูกค้าของบริษัทหลายราย ประสบช่องและได้ชักชวนทีมงาน RD ของบริษัทฯ บางส่วนออกไปหรือไม่ก็จ้างพนักงานลักลอบนำสูตรของบริษัทฯ ออกไป และเปิดเป็นโรงงานผลิตเครื่องสำอางเอง หลายราย
"หลังจากน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 บริษัทฯ ได้ย้ายโรงงานมาตั้งในนิคมอุตสาหกรรม รังสิต โพรสเพอร์ เอสเตด (RPE) จนถึงปัจจุบัน"
จากการมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างจริงจังในการพัฒนาองค์กร จนกระทั่งในปี 2559 บริษัทฯ ก็ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP CODEX และ ISO 9001:2008 โดย BUREAU VERITAS เมื่อ 17 มีนาคม 2559 ถือเป็นก้าวแรกสู่มาตรฐานสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
... และในปีเดียวกัน บริษัทก็ได้พัฒนา แผ่นเจลมาส์กหน้าจากธรรมชาติ 100% และส่งเข้าประกวด ได้รับรางวัลชนะเลิศจากทาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และตามด้วยรางวัล GOLDEN AWARDS on Stage ในงาน GENEVA INTERNATIONAL INVENTION EXHIBITION 2016 ที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
ในปี 2555 – 2561 ถือได้ว่าเป็นช่วงที่ธุรกิจเครื่องสำอางและอาหารเสริมได้เติบโตขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ผู้ประกอบการบางรายหาช่องโหว่กระทำผิดกฎหมายในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน มีตั้งแต่...
-
นำยามาผสมใส่ในเครื่องสำอางและอาหารเสริม
-
ปลอมแปลงหรือสวมเลขที่จดแจ้ง อย.
-
โรงงานผลิตเครื่องสำอางเถื่อน
-
โรงงานผลิตเครื่องสำอางแอบอ้างมาตรฐาน GMP CODEX และ ISO 9001
-
นำครีมที่หมดอายุมาบรรจุ และลงวันที่ผลิตใหม่
-
นำสารเคมีที่หมดอายุมาใช้ในการผลิต
-
ใส่สารเกินมาตรฐานที่ทาง อย. กำหนด
-
แอบอ้างโฆษณาเกินจริง
-
อื่นๆ อีกมาก
จะเห็นว่า ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน และขาดการควบคุมจากภาครัฐ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายอาศัยช่องโหว่นี้กระทำผิดกฎหมาย ประกอบกับทาง อย. มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการตรวจสอบ
แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เมจิกสกิน ทำให้หน่วยงานภาครัฐทั้ง อย. สคบ. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง พร้อมทั้งออกกฎหมายหลายข้อเพื่อควบคุม
จากมาตรการนี้เอง ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องหยุดเพื่อทบทวนปรับปรุงโรงงานของตน เพราะจากนี้ไปทางหน่วยงานภาครัฐ จะเข้ามาควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อปิดช่องทางในการทำผิดกฎหมาย
ส่วนโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเหล่านั้น จะมีก็เพียงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต้องอาศัยเวลา .... จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายทึ่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกัน