อยากจะปิดการขายเครื่องสำอางเก่ง คุณควรรู้… กายวิภาคของผิวหนังและหน้าที่
top of page

อยากจะปิดการขายเครื่องสำอางเก่ง คุณควรรู้… กายวิภาคของผิวหนังและหน้าที่




ผิวหนังจัดว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และจะห่อหุ้มร่างกายเราไว้ทั้งหมด ทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ใต้ลงไป จากความร้อน แสง การติดเชื้อ และสภาพแวดล้อมทั้งหลาย   นอกจากนี้มันยังทำหน้าที่


  • ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่

  • เป็นที่กักเก็บน้ำและไขมัน

  • มีปลายประสาทรับรู้ความรู้สึก

  • ป้องกันการสูญเสียน้ำ


  • ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย


ผิวหนังทั่วทั้งร่างกาย จะมีความแตกต่างกันไปทั้งสี ความหยาบละเอียด และความหนา   ยกตัวอย่าง ที่ศรีษะจะมีรากผมอยู่มากกว่าที่อื่น   ในขณะที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าไม่มีเลย   แต่จะมีความหนาของชั้นผิวที่มากกว่า เป็นต้น


ผิวหนังประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ ซึ่งแต่ละชั้นก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • ชั้นอีพิเดอมีส (Epidermis)

  • ชั้นเดอมิส (Dermis)

  • ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutneous fat layer)


ชั้นอีพิเดอมีส (Epidermis)


ถือว่าเป็นชั้นนอกสุดของผิวหนัง ชั้นนี้เรียกกันง่ายๆ ว่า หนังกำพร้า ประกอบด้วย 3 ส่วน:-


สเตรตัม คอร์เนียม (Stratum Corneum) เรียกเข้าใจง่ายๆ คือชั้นขี้ไคล   ชั้นนี้จะประกอบไปด้วยเซลล์คีราติโนไซต์ (Keratinocytes) ซึ่งจะผลิตสารเคอราติน (Keratin) และเคอราตินนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น   ชั้นนี้จะป้องกันสิ่งแปลกปลอมภายนอกไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย   นอกจากนี้ ยังป้องกันการสูญเสียของน้ำออกจากร่างกายด้วย


ชั้นขี้ไคลนี้ ถ้าเกาะติดกันแน่นและไม่ลอกหลุดตามเวลาที่ควร ก็จะไปอุดตันตามรูขุมขนได้ เป็นที่มาของสิวเสี้ยน และเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบตามมาได้   ดังนั้นการใช้กรด AHA ก็จะไปเร่งการผลัดเซลล์ผิวในชั้นนี้ได้ จึงช่วยลดสิวเสี้ยนลงได้


เซลล์คีราติโนไซต์ (หรืออีกชื่อ สความาสเซลล์ – Squamous cell) ถ้าเรียกแบบชาวบ้านก็คือ หนังกำพร้านั่นเอง ชั้นนี้จะอยู่ถัดใต้ชั้นสเตรตัม คอร์เนียมลงไป   เป็นชั้นเซลล์คีราติโนไซต์ที่มีชีวิต และเป็นเซลล์ที่มีอายุโตเต็มวัย ซึ่งพร้อมจะกลายสภาพไปเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว (ซึ่งก็คือชั้นสเตรตัม คอร์เนียม) และหลุดลอกกลายเป็นขี้ไคล


ชั้นเบเซิล (Basal Layer) เป็นชั้นที่ลึกที่สุดของชั้นอีพิเดอมีส ที่ชั้นนี้จะมีเบเซิลเซลล์อยู่ และแผ่คลุมต่อเนื่องกันตลอด   เบเซิลเซลล์นี้จะแบ่งตัวและสร้างเป็นเซลล์คีราติโนไซต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทดแทนเซลล์คีราติโนไซต์ที่เสื่อมสภาพกลายไปเป็นชั้นสเตรตัม คอร์เนียม





ในชั้นอีพิเดอมีสนี้จะมีเซลล์เมลาโนไซต์แทรกตัวอยู่ ซึ่งเซลล์เมลาโนไซต์นี้จะเป็นตัวที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน (ทำให้เกิดสีผิว)



โดยปกติเซลล์ชั้นหนังกำพร้า จะมีการผลัดเปลี่ยนกลายเป็นขี้ไคลตลอดเวลา และหลุดลอกออกไปตามธรรมชาติ   ตามรูป (1) คือเซลล์ชั้นเบเซิล จะแบ่งตัวและเติบโตกลายเป็น เซลล์คีราติโนไซต์ ซึ่งเซลล์ที่เกิดใหม่ (2) จะอยู่ด้านล่าง เมื่อเซลล์คีราติโนไซต์แก่ตัวก็จะถูกดันขึ้นอยู่ด้านบน (3) จากนั้นก็ตายกลายเป็นชั้นสเตรตัม คอร์

เนียม ซึ่งก็คือชั้นขี้ไคล (4) นั่นเอง

ผิวหนังในเด็กขบวนการนี้จะเกิดขึ้นเร็ว ทำให้เด็กมีผิวหน้าใส, เรียบเกลี้ยง   แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการดังกล่าว จะเกิดขึ้นช้าๆ ทำให้การผลัดเซลล์ผิวช้าลง ขี้ไคลก็จะพอกหนาขึ้น


เมื่อมีปัจจัยภายนอกต่างๆ มาเสริม เช่น โดนแสงแดดบ่อย, มลพิษ, สารเคมี, สูบบุหรี่ ก็จะไปเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น   ทำให้ผิวหยาบกร้าน, มีรอยด่างดำ, ตกกระ, ฝ้า รอยเหี่ยวย่น ผิวหน้าแลดูหมองคล้ำ ไม่สดใส



ชั้นเดอมีส (Dermis)


เป็นชั้นที่อยู่ตรงกลาง จัดว่าเป็นชั้นหนังแท้ ที่ชั้นนี้จะมี

  • หลอดเลือดขนาดเล็ก มาหล่อเลี้ยง

  • ท่อน้ำเหลือง

  • รากขน

  • ต่อมเหงื่อ

  • เส้นใยคอลลาเจน

  • เซลล์ไฟโบรบลาส (Fibroblast) ซึ่งเป็นตัวที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin)

  • เส้นประสาท

ชั้นเดอมีสนี้จะถูกยึดเข้าหากันด้วยเส้นใยคอลลาเจน   ชั้นนี้จะมีปลายประสาทรับความรู้สึกเจ็บและสัมผ้ส



ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous tissue)


เป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุด   ชั้นนี้จะมีเครือข่ายของเส้นใยคอลลาเจนและเซลล์ไขมัน ช่วยในการเก็บสะสมพลังงานความร้อนไม่ให้สูญเสียออกนอกร่างกาย และช่วยปกป้องร่างกาย ด้วยการดูดซับแรงกระแทกจากภายนอก


ความรู้เรื่องผิวหนังจะช่วยให้คุณเข้าใจกลไกการทำงานของสารเคมีบางกลุ่ม ช่วยให้คุณเข้าใจว่า ปัญหาต่างๆ ของผิวหน้าว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร?   ซึ่งไว้บทความต่อไป ผมจะประยุกตฺ์เรื่องนี้เพื่อให้คุณมองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น — และเมื่อคุณเข้าใจดีแล้ว… คุณก็จะเลือกเองได้ถูกต้องว่า ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อะไรไป ขายครีม ขายเครื่องสำอาง และควรขายอะไรให้กับลูกค้าของคุณคนไหน? — ไม่ใช่ซื้อมาแล้วขายไม่ออก ไม่รู้ว่าจะขายให้ใคร เพราะคุณเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันมีประโยชน์จริงๆ อย่างไร?… เพราะมัวแต่ปล่อยให้ผู้ผลิตพูดชี้นำคุณอยู่ฝ่ายเดียว…!



เฮ้อ... เสียเงินไม่ว่า -- ยังต้องมาโดนว่า ให้ช้ำใจอีก... กลุ้ม!





bottom of page