น.พ.บรรลือ กองไชย
9 มิ.ย. 2566
งานวิจัยนี้ได้ทำการลองทางคลินิกแบบสุ่ม โดยให้การรักษาด้วย NR (Nicotinamide Riboside) กับผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease: PD)
ผู้ป่วยที่เพิ่งจะได้รับการวินิจฉัยเป็นโรค PD จำนวน 30 ราย โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
รับประทาน NR 1,000 มก. จำนวน 15 คน
รับประทานยาหลอก จำนวน 15 คน
ใช้เวลาในการทดลอง 30 วัน และผู้ป่วย PD ทุกรายจะได้รับการตรวจหาระดับ NAD+ ในสมองด้วยวิธี Phosphorous Magnetic Resonance Spectroscopy และตรวจหาสารอื่นที่เกี่ยวข้อง จากน้ำจากไขสันหลัง (CSF)
คนไข้ PD ที่ได้รับยา NR พบว่า มีระดับ NAD+ ในสมองสูงขึ้น บ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานสมองส่วนเซเรบรัม (Cerebrum) ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธี Fluoro-deoxyglucose positron emission tomography ซึ่งสัมพันธ์กับอาการที่ดีขึ้นเล็กน้อย
NR จะไปเพิ่มระดับสาร NAD+ และสารอื่นๆ และกระตุ้นให้เกิดสัญญานไปเพิ่มกระบวนการทำงานของ ไมโตคอนเดรีย. ไลโซโซม และการทำงานของเอ็นไซม์ในเลือดและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ NR ยังไปลดระดับของสารที่เกี่ยวกับการอักเสบ (Cytokines) ในน้ำเหลืองและน้ำจากไขสันหลัง (CSF)
จากการทดลองนี้ บ่งชี้ว่าสาร
NR ช่วยรักษาและป้องกันเส้นประสาทและสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
ซึ่งต้องรอการวิจัยอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนต่อไป
โรคพาร์กินสัน (Parkinson disease)
คือ โรคความเสื่อมของระบบประสาท ที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งในผู้สูงอายุ พบได้ 1% ในผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โรคนี้มีความสำคัญต่อการสาธารณสุขไทย เพราะเป็นโรคที่ทำให้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทุพพลภาพ เพิ่มอัตราการเสียชีวิต และยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ดูแลอีกด้วย
อาการโรคพาร์กินสัน
อาการแสดงหลักเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Motor Symptoms) ประกอบด้วย
อาการเคลื่อนไหวช้า
อาการสั่นขณะอยู่เฉย
อาการแข็งเกร็ง
การทรงตัวลำบาก ทำให้หกล้มบ่อย
NR (Nicotinamide Riboside) เมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกาย NR จะเข้าสู่เซลล์และเปลี่ยนไปเป็น NMN (Nicotinamide Mononucleotide) จากนั้นก็จะเปลี่ยนไปเป็นสาร NAD+ (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) เพื่อใช้งานต่อไป
อ้างอิงจาก: https://www.cell.com/action/showPdf?pii=S1550-4131%2822%2900045-6
.